8 วิธีหางานให้ได้เร็ว ไม่ตกงาน!!
8 วิธีหางานให้ได้เร็ว ไม่ตกงาน!! การหางานในช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเศษฐกิจมีความผันผวน บวกกับการแข่งขันหางานที่สูงขึ้น ด้วยปัญหาเหล่านี้ JOBKUB จะมาแนะนำ 8 วิธีหางานให้ได้เร็ว โดยที่ไม่ทำให้คุณตกงาน และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมหางานอย่างเต็มที่
สารบัญ
-
เริ่มจากหาที่ปรึกษา ที่สามารถไว้ใจได้
-
รู้จักจุดเด่น จุดด้อยของตนเอง
-
หมั่นอัปเดต Resume
-
ระบุทักษะ ความสามารถอย่างชัดเจน
-
สมัครงานให้ตรงตามความต้องการ
-
เช็กช่วงวันและเวลาที่เหมาะสมในการสมัครงาน
-
ไฟล์ Resume เปิดยาก โหลดช้า
-
ข้อมูลต่าง ๆ ถูกต้องและชัดเจน
-
สรุป
ก่อนอื่นคุณต้องทราบว่า การหางานใหม่คือจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของชีวิต จึงต้องตั้งเป้าหมาย ค้นหาความต้องการให้ชัดเจน เช่น ต้องการหางานในตำแหน่งเดิม, ต้องการอัพตำแหน่ง+เงินเดือนที่สูงขึ้น หรือเปลี่ยนสายงานใหม่ ซึ่งแต่ละเป้าหมายในการหางานนล้วนมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
หางานตำแหน่งเดิม
ข้อดี : คุณมีประสบการณ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีโอกาสได้งานเร็วขึ้น
ข้อเสีย : เรียกเงินเดือนได้ไม่สูง อาจเติบโตช้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทด้วย
หางานตำแหน่ง+เงินเดือนที่สูงขึ้น
ข้อดี : ได้ตำแหน่งงาน+เงินเดือนแบบก้าวกระโดด หน้าที่การงานเติบโต
ข้อเสีย : โอกาสได้งานน้อย ความรับผิดชอบมากขึ้น ความสามารถและประสบการณ์อาจไม่ถึง
เปลี่ยนสายงานใหม่
ข้อดี : ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ต่อยอดความรู้เดิม เพิ่มโอกาสเติบโตในอนาคต
ข้อเสีย : เงินเดือนที่ได้รับขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท โอกาสได้งานน้อย เนื่องจากประสบการณ์ไม่ตรงตามที่บริษัทต้องการ ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้เยอะ
8 วิธีหางานให้ได้เร็ว ไม่ตกงาน!!
1.เริ่มจากหาที่ปรึกษา ที่สามารถไว้ใจได้
คนที่สามารถปรึกษาหรือไว้ใจได้ จะช่วยแชร์ประสบการณ์ หรือช่วยหาแนวทางการทำงานได้อย่างชัดเจน ลดปัญหาการหางานคนเดียวแบบสุ่มเสี่ยง ไม่รู้ทิศทาง และไม่รู้ความต้องการของตัวเอง ในบางครั้งการสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ หรือเพื่อนสนิทสมัยเรียน หรือมีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ดี บางครั้งกลุ่มคนเหล่านั้นอาจเป็นบุคคลที่ช่วยหางานให้คุณได้เลย โดยไม่เสี่ยงตกงานด้วย
2.รู้จักจุดเด่น จุดด้อยของตนเอง
ก่อนหางานใหม่ ต้องรู้จักตัวเองถึงจุดเด่น-จุดด้อย เช่น คุณมีดีอะไร มีทักษะและความสามารถเด่นด้านไหน เพื่อนำมาพรีเซนต์ตัวเองให้เป็นที่รู้จัก โดยลองพูดคุยหรือนำเสนอความต้องการในอนาคตที่คุณอยากเป็นให้กับคนรู้จักฟัง ส่วนจุดด้อย คุณต้องรู้ว่า อะไรที่เป็นจุดอ่อน และสามารถเปลี่ยนจุดอ่อนนั้นให้กลายเป็นจุดแข็งได้หรือไม่
ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถโฟกัสงาน 2 อย่างในเวลาเดียวกันได้ จนทำให้งานหลุดหรือมีปัญหา แต่ในทางกลับกันคุณสามารถแก้ไขปัญหาส่วนนี้ได้ด้วยการวางแผน และปรับแนวคิดจนสามารถดูแลงานแต่ละส่วนได้อย่างสมดุล และจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมพรีเซนต์ตัวเองออกมาให้บริษัทที่คุณสมัครงานนั้นได้ทราบ
3.หมั่นอัปเดต Resume
การหางานใหม่ให้ได้เร็ว ๆ ต้องการปรับ Resume ให้น่าสนใจ อย่างแรกเลย Resume ของคุณต้องสะอาดตา รายละเอียดต่าง ๆ ต้องมีการเรียบเรียงและจัดระเบียบอย่างเรียบร้อย อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน ที่สำคัญ Resume ต้องมีคุณสมบัติที่ชวนให้ HR สนใจ โดยเฉพาะคุณสมบัตินั้นของคุณต้องตรงกับตำแหน่งที่ทางบริษัทเปิดรับด้วย ด้วยเหตุนี้เพื่อให้ได้งานเร็วขึ้น คุณต้องสมัครงานในตำแหน่งที่มีประสบการณ์หรือมีทักษะความสามารถตรงตามที่บริษัทนั้น ๆ ด้วย เพื่อให้ทาง HR ติดต่อเรียกตัวคุณไปสัมภาษณ์งานต่อไป
4.ระบุทักษะ ความสามารถอย่างชัดเจน
ด้วยการแข่งขันหางานที่สูง ทำให้การสมัครงานเพื่อให้ได้งานเร็วเป็นเรื่องที่ยากขึ้น แต่ไม่ว่าคุณจะสมัครงานที่ไหนควรใส่คุณสมบัติเด่น ทักษะ และความสามารถให้ชัดเจน เนื่องจากการสมัครงานในตำแหน่งงานที่ตรงกับความสามารถของตนเอง ช่วยเปิดโอกาสให้ได้งานเร็วขึ้น เพราะบริษัทส่วนใหญ่ต้องการพนักงานที่มีฝีมือ สามารรับผิดชอบงานได้อย่างแท้จริง
5.สมัครงานให้ตรงตามความต้องการ
การหางานใหม่คือจุดเปลี่ยนของชีวิต เมื่อต้องไปเริ่มต้นใหม่กับที่ทำงานใหม่ และสังคมรูปแบบใหม่ ควรตัดสินใจให้ดีก่อนสมัครงาน โดยต้องรู้ก่อนว่าตัวเองต้องการอะไร หรือไม่ต้องการอะไร ต้องการสภาพแวดล้อมทำงานแบบไหน หรือต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยประกอบการตัดสินใจคัดเลือกบริษัทที่เหมาะสมที่สุด ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อคุณรู้ต้องการของตัวเองแล้ว ยิ่งทำให้คุณเห็นเป้าหมายชัดขึ้น ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่เสียเวลาหางานใหม่หลายรอบด้วย
6.เช็กช่วงวันและเวลาที่เหมาะสมในการสมัครงาน
ช่วงวัน/เวลาที่มีคนหางาน และสมัครงานมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นในวันอังคาร ดังนั้นถ้าไม่อยากมีคู่แข่งเยอะ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้ และไม่แนะนำให้ส่ง Resume ในวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะเป็นวันหยุดทำการ ไม่เช่นนั้นอีเมลที่ส่งไปจะถูกดองเอาไว้นาน รวมถึงพยายามอย่าส่ง Resume ในตอนเย็น เพราะเป็นเวลาเลิกงาน จึงขอแนะนำช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการส่งใบสมัครงาน ก็คือ วันจันทร์ ในเวลาทำการ 8.00- 17.00 น. เพราะวันจันทร์เป็นต้นสัปดาห์ที่ HR หรือพนักงานหลาย ๆ ต้องเปิดอีเมลเช็กงานหรือตรวจสอบงานต่าง ๆ
7.ไฟล์ Resume เปิดยาก โหลดช้า
คุณต้องแน่ใจก่อนว่า Resume หรือ Portfolio ที่คุณส่งไปสามารถเปิดอ่านได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ เพราะบางทีเราเสียโอกาสได้งานเพราะ HR เปิดอ่าน Resume ไม่ได้ เช่น ไฟล์ผิด ไฟล์มีขนาดใหญ่ รอโหลดนาน หรือไฟล์ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ
ฉะนั้น ควรทำเป็นไฟล์ที่ใช้สำหรับดูเท่านั้น เช่น ไฟล์ PDF และ JPG ไม่แนะนำให้เป็นไฟล์แบบตั้งโค้ดเข้ารหัส และถ้าเป็นไฟล์ Doc Ps หรือ Ai เมื่อเปิดในเครื่องต่างเวอร์ชั่นจะทำให้ตัวอักษรและรูปไม่ตรงกับไฟล์ต้นฉบับ ที่สำคัญ Portfolio รวมถึงไฟล์ที่ใช้แนบไม่ควรมีขนาดใหญ่เกิน 2 MB
8.ข้อมูลต่าง ๆ ถูกต้องและชัดเจน
หากคุณสมัครงานผ่านเว็บไซต์หางาน ซึ่งต้องกรอกประวัติส่วนตัวและประวัติการทำงาน พร้อมแนบไฟล์รูปถ่าย ตามแบบฟอร์มที่กำหนด จากนั้นก็เลือกตำแหน่งที่ต้องการและกดปุ่มสมัครงาน ซึ่งหลายคนกรอกข้อมูลเหล่านี้แค่พอเป็นพิธี ไม่ได้ตั้งใจกรอกให้ครบถ้วน ชัดเจน โดยเฉพาะตรงหน้าที่ความรับผิดชอบที่บางคนกรอกสั้นมากจนไม่รู้ว่าประสบการณ์ทำงานทำอะไรบ้าง
จึงควรตั้งใจเขียนให้ละเอียด มีความชัดเจน เพื่อไม่ถูกตัดโอกาสในการเรียกสัมภาษณ์งาน อีกทั้ง การกรอกประวัติต่าง ๆ ในเว็บไซต์อย่างครบถ้วน ยังเปิดโอกาสให้ HR เข้ามาค้นหาใบสมัครงานในเว็บได้เจอประวัติของคุณด้วย หากคุณเขียนข้อมูลส่วนนี้ได้น่าสนใจ มีข้อมูลครบถ้วน คุณก็อาจจะได้รับการติดต่อจาก HR โดยไม่ต้องกดสมัครงานเลยล่ะ
บทความแนะนำ
สรุป
เพราะฉะนั้นแล้ว วิธีหางานให้ได้งานแบบรวดเร็วทันใจ ประวัติ Resume ประวัติการทำงาน ประสบการณ์ และทักษะความสามารถต่าง ๆ ต้องมีความละเอียด ครบถ้วน ชัดเจน พร้อมสมัครงานในช่วงวันและเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น ใครที่ต้องการหางาน สมัครงานในช่วงนี้เว็บไซต์ JOBKUB เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาหางานและสมัครงานได้อย่างเต็มที่ ไม่มีขีดจำกัด และยังสามารถฝากประวัติส่วนตัว สร้าง Resume ได้ด้วยตนเอง เพราะมีเทมเพลตให้เลือกว่า 10 แบบ มอบความสะดวกในเรื่องของการหางาน และสมัครงานอย่างมาก