เทคนิคเขียนเรซูเม่ให้น่าสนใจ สำหรับคนไม่มีประสบการณ์
เทคนิคเขียนเรซูเม่ให้น่าสนใจ สำหรับคนไม่มีประสบการณ์ เรซูเม่ (Resume) เป็นใบเบิกทางสำคัญสำหรับการแนะนำตัวของผู้สมัครงาน ซึ่งผู้สมัครงานควรให้ความสำคัญกับการเขียนเรซูเม่ โดยเขียนข้อมูลที่จำเป็นอย่างครบถ้วน บอกเล่าประวัติส่วนตัว ทักษะ และประสบการณ์การทำงานให้น่าสนใจ และปัญหาที่มักพบได้บ่อยสำหรับเด็กจบใหม่ หรือคนที่ไม่มีประสบการณ์ทำงานก็คือ ช่วงเขียนเรซูเม่นี่ล่ะ
สำหรับเด็กจบใหม่ หรือผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการทำงานมาก่อน อาจรู้สึกกังวล ไม่รู้จะเริ่มต้นเขียนเรซูเม่ในส่วนของ ประสบการณ์อย่างไรดี และกลัวว่า จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงาน อาจทำให้ต้องพลาดโอกาสการสมัครงานในตำแหน่งงานนั้น ๆ ไป แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ หรือไม่มีประสบการณ์การทำงาน ทุกคนต่างต้องเริ่มมาจากศูนย์ทั้งสิ้น และก็มีบริษัทหลายแห่งที่ต้องการเด็กจบใหม่ไฟแรง กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และกล้าแสดงความคิดเห็น พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไปร่วมทำงานด้วยอยู่ไม่น้อย ดังนั้น อย่าได้กังวล อยากให้ทุกคนเชื่อในความสามารถและความเชี่ยวชาญที่ตัวเองมีมากกว่า
สารบัญ
-
เรซูเม่ (Resume) ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง?
-
ไม่มีประสบการณ์ เขียนเรซูเม่อย่างไร?
-
รูปถ่ายในเรซูเม่เป็นทางการ
-
เขียน Summary ประวัติโดยรวมให้น่าสนใจ
-
โฟกัสที่ประวัติการศึกษาและทักษะความสามารถ
-
รางวัลที่ได้รับและกิจกรรมระหว่างเรียน
-
ประวัติการฝึกงานและงานพิเศษ คือแต้มต่อที่ดี
-
ตกแต่งเรซูเม่ให้ดูดี
-
สรุป
1. เรซูเม่ (Resume) ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง?
เรซูเม่ที่ดี ควรทำเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและภาษาไทย พร้อมเขียนรายละเอียดข้อมูลพื้นฐานให้ครบถ้วน ได้แก่ ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ฝ่ายบุคคลสามารถติดต่อกลับได้ รวมถึงประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ทักษะการใช้โปรแกรม ทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ ความสามารถในการขับรถ หรือทักษะอื่น ๆ ที่จะสามารถบ่งบอกตัวตนและความสามารถให้เป็นที่น่าสนใจได้
2. ไม่มีประสบการณ์ เขียนเรซูเม่อย่างไร?
สำหรับเด็กจบใหม่ หรือคนที่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน สามารถใส่ประวัติการฝึกงานแทนได้ โดยบอกหน้าที่ที่รับผิดชอบ รวมถึงกิจกรรมที่ทำระหว่างเรียน งานอาสา งานประกวด หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณทำ ตลอดจนงานเสริมทั่วไปไม่ว่าจะเป็น การเปิดช่องทางโซเชียล การขายของออนไลน์ รีวิวสินค้า การทำช่องยูทูป ก็สามารถใส่รายละเอียดในส่วนนี้ได้เช่นกัน
3. รูปถ่ายในเรซูเม่เป็นทางการ
รูปถ่ายที่ติดในเรซูเม่ควรเป็นรูปถ่ายทางการ แต่งตัวเรียบร้อย ใส่ชุดทำงานหรือสูท หรือเป็นรูปถ่ายชุดครุย ไม่ควรใช้ภาพเซลฟี่ (Selfie) เด็ดขาด หากเป็นผู้ชายควรโกนหนวด โกนเคราให้ดูสุภาพ
4. เขียน Summary ประวัติโดยรวมให้น่าสนใจ
การเขียน Summary หรือสรุปประวัติโดยรวมของตัวเองให้โดดเด่นเอาไว้ส่วนบนสุดของ Resume ซึ่งไม่ควรมีความยาวมากเกินไป โดยความยาวที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 3-4 บรรทัดเท่านั้น
5. โฟกัสที่ประวัติการศึกษาและทักษะความสามารถ
ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์การทำงาน แต่สามารถทำเรซูเม่ให้โดดเด่นได้จากในส่วนของประวัติการศึกษา (Education Background) ที่ไม่ควรบอกแค่การศึกษาเท่านั้น พร้อมใส่ผลการเรียน หรือประวัติการเข้าคอร์สโปรแกรมฝึกอบรมพิเศษต่าง ๆ เข้าไปได้ด้วย นอกจากนี้ทักษะความสามารถเฉพาะตัวของเรา ทั้ง Hard skill และ Soft skill ก็ควรใส่เข้าไป โดยเลือกสิ่งที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อตำแหน่งงานนั้น ๆ
6. รางวัลที่ได้รับและกิจกรรมระหว่างเรียน
รางวัล เกียรติบัตร รวมถึงใบประกาศนียบัตรที่การันตีผลงานความสามารถ และการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผ่านมาของตัวเอง สามารถใส่ลงไปในเรซูเม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าหากมีเยอะมากจนเลือกไม่ถูก ให้เราเลือกเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานนั้นก็พอ
7. ประวัติการฝึกงานและงานพิเศษ คือแต้มต่อที่ดี
เด็กจบใหม่ ใช่ว่าจะไม่มีประสบการณ์การทำงานเสมอไป โดยเฉพาะคนที่เคยผ่านการฝึกงาน หรือทำงานพาร์ทไทม์มาบ้าง ซึ่งถือเป็นจุดที่นำมาเขียนในเรซูเม่ได้ ส่วนถ้าใครที่ทำงานพิเศษระหว่างเรียนไปด้วย แม้จะไม่ตรงกับตำแหน่งงานที่สมัครก็สามารถใส่เข้าไปในประวัติการทำงานได้เช่นกัน เพื่อให้ผู้พิจารณาใบสมัครเห็นว่า คุณมีประสบการณ์การทำงาน และขยันทำงาน เพื่อหาโอกาสในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
8. ตกแต่งเรซูเม่ให้ดูดี
ภาพลักษณ์หรือหน้าตาของเรซูเม่เป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้จะเป็นเอกสารเพียงไม่กี่หน้าก็ตาม หากต้องการให้โดนใจคนพิจารณาใบสมัครจนเรียกเราเข้ามาสัมภาษณ์งาน สิ่งที่ต้องทำก็คือ เขียนแต่ละข้อที่กล่าวมาให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่คุณสมัครงานให้มากที่สุด พร้อมจัดเรียงลำดับอย่างเป็นระเบียบให้เหมาะสม และตกแต่งสีสันให้ดูดี สวยสะดุดตา ดีกว่าเป็นตัวอักษรสีดำพื้นกระดาษขาว ซึ่งจะดูธรรมดาเกินไป
เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า การเขียนเรซูเม่ให้น่าสนใจสำหรับเด็กจบใหม่ หรือคนที่ไม่มีประสบการณ์ รูปแบบของเรซูเม่ จึงจะต้องมีการปรับให้เหมาะกับตำแหน่งงานของบริษัทนั้น ๆ เช่น
- หากเลือกสมัครงานในตำแหน่งงานธุรการ จะต้องใส่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน เปลี่ยนโทนสีเรซูเม่ต้องดูสุภาพ สะอาดตา
- หากเลือกสมัครงานในตำแหน่งกราฟิก จะต้องใส่เนื้อหาและผลงานที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนโทนสีสวย มีลูกเล่นให้ดูน่าสนใจ ให้เหมาะกับตำแหน่งงาน
- จัดโครงสร้างเรซูเม่ให้อ่านง่าย กระชับ ไม่ใส่ข้อมูลล้นมากจนเกินไป
- ใส่รายละเอียดบอกเล่าประสบการณ์ ที่เชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่สมัคร
- เขียนจุดมุ่งหมายในการทำงาน โดยพูดถึงคุณสมบัติด้านการศึกษาประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน รวมไปถึงผลงานที่น่าสนใจแบบสั้น ๆ
บทความแนะนำ
สรุป
นอกจากนี้ เด็กจบใหม่หรือผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน หากสนใจสมัครงาน หรือหางานในตำแหน่งที่ใช่และโดนใจมากที่สุด สามารถเข้าเว็บไซต์หางาน JOBKUB มาฝากประวัติเรซูเม่ หรือสมัครสมาชิกเพื่อรับเรซูเม่ออนไลน์ฟรีได้ โดยสามารถดาวน์โหลดเรซูเม่ไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญ JOBKUB เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมตำแหน่งงานมากมายทั่วทุกมุมโลก ทำให้ง่ายต่อการค้นหางาน ยิ่งฝากประวัติเรซูเม่ ยิ่งเปิดโอกาสให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาเห็นและติดต่อเรียกสัมภาษณ์งานคุณได้อีกด้วย บอกเลยว่า JOBKUB ตอบโจทย์กลุ่มคนหางานทุกรูปแบบจริง ๆ