สมัครงานที่ใช่! ได้บริษัทที่ชอบ ต้องเช็กให้รอบคอบ หากต้องการทำงานกับบริษัทใดสักแห่งหนึ่งในระยะยาว ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเรื่องของเงินเดือน สวัสดิการ เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งบางคนอาจเลือกสมัครงานที่ใช่ บางคนเลือกเงินเดือนที่พอใจ แต่บางคนกลับรู้สึกว่า ไม่มีความสุขกับการทำงาน จนท้ายที่สุดต้องลาออกหางานใหม่

เพราะฉะนั้น คำตอบในการเลือกสมัครงานที่ใช่ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมไปถึงต้องทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ส่วนใครที่สงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร!? และอะไรคือปัจจัยที่บ่งบอกได้ว่าบริษัทนี้เหมาะกับเรา!? ด้วยเหตุนี้ จะพาทุกคนมาเช็กลิสต์เพื่อค้นหาบริษัทที่ใช่ รวมถึงวิธีการหลีกเลี่ยงบริษัทที่มีแนวโน้มและสัญญาณของการเป็นพิษ (Toxic) เพื่อให้ได้ทำงานกับบริษัทที่ดีต่อสุขภาพจิตมากที่สุด

สารบัญ

• สมัครงานที่ใช่ เลือกวัฒนธรรมที่ดี

• สมัครงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง

• สมัครงาน เลือกบริษัทที่ปฏิบัติตัวต่อพนักงานดี

• สมัครงานที่ใช่ เลือกรายละเอียดงานที่ถนัด

• บริษัทที่สมัครงานต้องให้คำตอบที่ชัดเจน

• พยายาม “ขายฝัน” แบบเกินจริง

• เลือกสมัครงานกับบริษัทที่ผลักดันพนักงาน

• สรุป

 

1. สมัครงานที่ใช่ เลือกวัฒนธรรมที่ดี

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ “วัฒนธรรมองค์กร” ใช้วิธีการสังเกตก็คือ เวลาที่คุณเดินทางไปสมัครงานที่บริษัทแห่งนั้น หรือในระหว่างสัมภาษณ์งานให้สังเกตรอบข้าง และกลุ่มพนักงานให้ดี เช่น บุคลิกพนักงานแต่ละบุคคล สภาพแวดล้อมการทำงาน ค่านิยม พันธกิจ และเป้าหมายของบริษัทว่าเป็นอย่างไร น่าเข้าร่วมงานด้วยหรือไม่!?

 

2. สมัครงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียง

ก่อนสมัครงาน หรือเริ่มทำงานในบริษัทใดก็ตาม ควรทำความรู้จักกับบริษัท หรือรายละเอียดของตำแหน่งงานนั้น ๆ ก่อน เพื่อศึกษาทำความคุ้นเคยล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น ศึกษาจากโซเชียลมีเดียของบริษัท เว็บไซต์หรือมุมมองของคนที่เคยมีประสบการณ์ว่า มีการพูดถึงบริษัทนี้อย่างไรบ้าง!?

 

3. สมัครงาน เลือกบริษัทที่ปฏิบัติตัวต่อพนักงานดี

ชีวิตการทำงาน นอกจากเลือกทำงานที่ถนัดและได้ค่าตอบแทนพอใจแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคน ๆ มักให้ความสำคัญและคนทำงานควรพิจารณาก่อนสมัครงานก็คือ หัวหน้างาน หรือเจ้าของบริษัทต้องปฏิบัติตัวกับพนักงานที่ดี โดยสังเกตได้จากช่วงที่ไปสัมภาษณ์งาน ว่าให้การต้อนรับเราเป็นอย่างไรบ้าง!?

ตัวอย่างที่ดี สำหรับการปฏิบัติตัวต่อผู้มาสัมภาษณ์งาน :

• ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แนะนำขั้นตอนการสัมภาษณ์งานอย่างละเอียดและเป็นกันเอง
• สัมภาษณ์งานตรงเวลาตามที่นัด
• แสดงรอยยิ้ม และสีหน้าที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจ คลายความกังวล
• หากเกิดความล่าช้า หรือต้องเลื่อนเวลาสัมภาษณ์งานกะทันหัน ต้องมาชี้แจงอย่างจริงใจ

แต่ถ้ากรณีที่ ผู้นัดสัมภาษณ์งานปล่อยให้นั่งรอเป็นเวลานานถึงครึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งชั่วโมง โดยไม่มีการต้อนรับหรือการบอกกล่าว อาจต้องพิจารณาบริษัทแห่งนี้ใหม่อีกครั้ง เพราะการเคารพสิทธิของผู้อื่นเป็นสิ่งที่พึงกระทำ และสิ่งเหล่านี้ทำให้มองเห็นอนาคต และเหตุการณ์ในการทำงานต่อไปได้

 

4. สมัครงานที่ใช่ เลือกรายละเอียดงานที่ถนัด

รายละเอียดงานบางอย่าง บางคนคิดว่าทำได้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงอาจเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด เพราะฉะนั้น ต้องพิจารณาถึงความสามารถ และขีดจำกัดความรู้ของตัวเอง เว้นเสียแต่ว่า บริษัทนั้นเปิดโอกาสให้คุณเข้าไปเรียนรู้งาน เพื่อพัฒนาตัวเองได้ สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ทั้งนี้ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน โดยเลือกสมัครงานที่ใช่ และเลือกรายละเอียดงานที่ตัวเองถนัด เพื่อให้การทำงานในอนาคตเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

 

5. บริษัทที่สมัครงานต้องให้คำตอบที่ชัดเจน

ในการสัมภาษณ์งาน หรือการพูดคุยก่อนที่จะตกลงสมัครงาน และทำงานร่วมกัน ควรสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานและให้ชัดเจน หากองค์กรมีทีท่าว่า ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทั้งที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือกระทบต่อตัวเรา อาจหมายความว่า พวกเขาต้องการ “ปกปิดปัญหาบางอย่าง” ซึ่งมันจะกระทบต่ออนาคตได้

ยกตัวอย่างเช่น กรณีผู้สมัครงานถามว่า “ไม่ทราบว่าทำไมตำแหน่งนี้ถึงเปิดรับเพิ่ม?” องค์กรทั่วไปก็น่าจะตอบได้ทันที เช่น “มีงานเข้ามาเยอะขึ้น เลยต้องการขยายทีม” หรือ “เพราะคนเก่าย้ายออกไป จึงต้องหาคนมาแทน” เพื่อให้ผู้สมัครงานหรือพนักงานใหม่ได้ทำความเข้าใจเหตุผล

ในฐานะที่กำลังจะร่วมงานกัน ทั้งองค์กรและพนักงานควรเปิดกว้าง และแสดงความจริงใจต่อกัน เพื่อความชัดเจนและประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย เพราะหากเปิดมาด้วยความคลุมเครือ อนาคตข้างหน้าทั้งหน้าที่การงาน ความก้าวหน้า และความเข้าใจในด้านต่าง ๆ ก็ย่อมไม่ชัดเจนไปด้วย

 

6. พยายาม “ขายฝัน” แบบเกินจริง

กรณีที่บริษัทต้องการคนเข้าทำงานอย่างหนัก มักใช้วิธีขายฝันให้รู้สึกคล้อยตาม ดึงดูดคนทำงานด้วยข้อดีของบริษัทตัวเอง แต่ในฐานะคนทำงาน สิ่งที่เราควรตระหนักคือการนึกถึง “ความเป็นจริง” ว่านอกเหนือจากสิ่งที่องค์กรพยายาม “ขาย” ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง เช่น ความกดดัน วัฒนธรรมองค์กร เพื่อนร่วมงาน หน้าที่รับผิดชอบ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ควรถูกมองข้าม โดยคุณอาจหาคำตอบด้วย “คำถามเจาะจง” เพื่อให้ได้ความชัดเจนจากบริษัทมากที่สุด

ตัวอย่างเช่น :

• ใน 1 สัปดาห์ต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง!?
• ใช้วิธีการประเมินผลงานของพนักงานอย่างไร!?
• ในอนาคตมีแผนขยายทีมเพิ่มหรือไม่!?

 

7. เลือกสมัครงานกับบริษัทที่ผลักดันพนักงาน

ก่อนตัดสินใจเข้าทำงาน หรือเซ็นสัญญากับบริษัท ควรศึกษาและสอบถามให้แน่ชัดถึงภาพรวมของการทำงานจริง และโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเองควบคู่ไปกับเป้าหมายขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะงาน, ความท้าทาย, แผนงานในอนาคต และโอกาสในการเติบโตในวันข้างหน้า

คงจะเป็นเรื่องดีถ้าคุณได้มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เพื่อนำพาบริษัทให้เติบโตและประสบความสำเร็จ เพราะสุดท้ายแล้วไม่ว่าเราหรือบริษัท ก็ต้องพัฒนาเพื่อแข่งขันในตลาดทุกวินาที

บทความแนะนำ

สรุป

ถึงอย่างไรก็ตาม การสมัครงานที่ใช่! ได้บริษัทที่ชอบ ต้องเช็กให้รอบคอบถึงปัจจัยหลาย ๆ ด้านให้ตอบโจทย์ตัวเอง และอนาคตมากที่สุด อย่ามองแค่ผิวเผินในเรื่องของเงินเดือนและสวัสดิการเท่านั้น ยังมีปัจจัยหรือมุมมองต่าง ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนเซ็นสัญญาทำงานกับบริษัทไหนสักแห่ง และหวังว่า บทความนี้จะช่วยให้การเลือกสมัครงานของทุกคนเป็นไปอย่างราบรื่น หรือถ้าหากกำลังมองหางาน คุณสามารถฝากประวัติเรซูเม่กับทาง JOBKUB ได้ เป็นการเปิดโอกาสหางานได้ง่ายขึ้น ทั้งยังได้รับเรซูเม่ออนไลน์ฟรี ที่มีเทมแพลตให้เลือกว่า 10 แบบ ใช้งานเว็บไซต์ง่าย และเข้าใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมค้นหางานที่ชอบได้ทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศ